Graphician

ขอเชิญเข้าร่วมอบรม 12 ชั่วโมง MAGAZINEDESIGN PhotoshopCS4

โดย Graphic Design มืออาชีพที่มีประสบการณ์กับนิตยสารมาแล้วหลายเล่ม
อาทิ
Shutter&Phtography
What AV
What Hifi
Contruction&Property
และอีกมากมาย


ด้วยเวลาเพียง 12 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถทำให้ท่านออกแบบ นิตยสาร หรือโบรชัวร์ ได้อย่างสวยงามด้วยตัวเอง โดยการรวบรวมเฉพาะแก่นแท้และหลักสำคัญในการออกแบบนิตยสาร ไม่ว่าจะเป็น แนวคิด ทฤษฎี ของงานนิตยสาร และสื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงขั้นตอนการออกแบบโดยใช้เครื่องมือที่เกี่ยวข้องและจำเป็น ในโปรแกรม Indesign cs4 & Photoshop cs4 เพื่อความสะดวกรวดเร็ว เข้าใจง่าย และสามารถนำไปใช้งานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในหลักสูตรท่านจะพบกับ
• แนวคิดทฤษฎี ในการออกแบบนิตยสาร
• เรียนรู้และฝึกใช้เครื่องมือที่เกี่ยวข้องในการออกแบบ
• การใช้เส้น กริด เส้น ไกด์ การกำหนดหน้ากระดาษ
• การใช้ Master Page การสร้าง Chalater Style
• การใส่เลขหน้า Spacial Chalacter
• การจัดการกับ text คอลัมน์ และรูปภาพ
• การเตรียมไฟล์ส่งพิมพ์ และอีกมากมายที่จะทำให้ท่าน ผลิตงานออกมาได้อย่างมืออาชีพ


พิเศษ!!! ไม่มีที่ใดสอน
• การประยุกต์ใช้ แบ็กกราวน์ กราฟฟิค ลูกเล่นต่างๆการ ไดคัท การใช้ mask ที่ทำให้ท่านยกระดับงานเป็น Advance ได้ไม่ยาก พิเศษ!!! ในรอบปฐมฤกษ์ เพียงท่านละ 3,500 บาท รับฟรี! หนังสือสอนการใช้ Indesign CS4 1 เล่ม และ CD แบ็กกราวน์ และ กราฟฟิคเพื่อประยุกต์ใช้ในงานจริง พิเศษ!!! ในรอบปฐมฤกษ์ เพียงท่านละ 3,500 บาท
รับฟรี! หนังสือสอนการใช้ Indesign CS4 1 เล่ม และ CD แบ็กกราวน์
และ กราฟฟิคเพื่อประยุกต์ใช้ในงานจริง
รับจำนวนจำกัดเพียง 10 ท่านเท่านั้น

สถานที่อบรม อาคาร พญาไท พลาซ่า ชั้น13 ติด BTS พญาไท
วันที่ 22-23 พฤษภาคม 2553 10.00-17.00

สามารถโอนเงินเพื่อสำรองที่นั่งได้ที่
ธ.กสิกรไทยสาขาย่อยเซ็ล ทรัลพระราม3
เลขที่บัญชี 748-2-29703-4
บัญชีออมทรัพย์ นายพีรัวัฒน์ คำถาเครือ

ลิงค์ผลงานที่ผ่านมาของผมครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร. 089-824-1975 คุณ Mac

ผมเองก็อยู่วงการ graphic Design มาเข้าปีที่ 7 แล้ว ผ่านอะไรมาตั้งมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็น งานนิตยสาร โฆษณา โบรชัวร์ แคตตาล็อก นามบัตร มีทั้งง่าย ทั้งยาก ทั้ง จุกจิก เรื่อยมาจนมาเป็น Art Director ในนิตยสาร ด้าน BB Gun ฉบับหนึ่ง จะว่าไปก็เหมือนบั้นปลายของอาชีพของผมเองนะครับ กับอายุที่ใกล้30บางคนสงสัยว่า ทำไมผมถึงเรียกมันว่าบั้นปลาย....เบื่อแล้วเหรอ..? ก็ต้องขอบอกเลยครับว่าไม่เบื่อตรงข้ามกับรักมันด้วยซ้ำ ก็เพราะความรักมันนี่แหละครับ ทำให้ผมอยากจะยกระดับงานที่ผมรักขึ้น...

โดยการที่ผมจะมาเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ...ให้แก่ผู้อื่นบ้าง...ถูกต้องครับไม่ต้องง ...

นั่นแปลว่าต่อจากนี้เอง ความรู้และประสบการณ์ต่างๆที่ผมมีมาตั้งแต่ทำงานนั้น จะถูกถ่ายทอดสู่ทุกๆคนที่สนใจครับ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบ โดยเฉพาะงานด้านสิ่งพิมพ์ ที่มันเหมือนเป็นลมหายใจที่ผมคงจะขาดไม่ได้ นอกเหนือจากงานด้านเทคนิคแล้ว ผมจะถ่ายทอดเรื่องมุมมองของงานสื่อสิ่งพิมพ์ให้ทราบด้วยครับว่า แก่นแท้และหลักสำคัญมันคืออะไร .....จริงๆแล้วงานที่เค้าบอกว่าสวย กับ ไม่สวยนั้น เอาอะไรมาวัดกันแน่ผมจะถ่ายทอดออกมาให้ได้ทราบครับ แต่ต้องบอกว่าบางสิ่งนั้นอ้างอิงมาจากมุมมองส่วนตัว ที่ผมได้พบเจอมาเองจริงครับ ไม่ได้ไปจำมาจากใครแน่นนอน

เคยสงสัยไม๊ครับ ว่าคำว่า Graphic Desing ที่เก่งนั้น เอาอะไรมาวัด....ท่านจะได้ทราบครับ

ผมเปรียบงานออกแบบที่ผมอยู่กับมันมาเป็นแบบนี้ครับ

คือ กระบวนท่า กับ พลังวัจ โห...ข้ามไปเหมือนหนังจีนกำลังภายในทีเดียว...อย่าเพิ่งเลิกอ่านครับผมกำลังอธิบายต่อ

กระบวนท่าต่างๆ ก็เป็นแค่หมัดมวยธรรมดาหากขาดพลังวัจซึ่งเราเข้าใจว่า คือกำลังภายในนั่นเอง หลายครั้งเราเห็น จอมยุทธ ใช้ฝ่ามือซัดกัน ก็กระเด็นเว่อร์ กันไปใกลเป็นกิโลทีเดียว 5555

นั่นแหละครับกระบวนท่าต้องคู่กับพลัง วัจ ถึงจะมีอานุภาพร้ายแรง

เช่นเดียวกับ งาน Design ผู้อ่านลองคิดเล่นๆดูครับ ว่าจะเปรียบให้คล้ายกันได้อย่างไร......เอ้าให้เวลานะครับ 1..2..3...4 ....อะไรนะครับ...เฉลยเลยเหรอ เอ้าๆๆๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวจะพากันเซ็งไปซะก่อน

เทคนิคการใช้โปรแกรม การแก้ปัญหา การใช้เครื่องมือต่างๆนั้นเปรียบดังกระบวนท่า
ส่วนมุมมอง และสัญญาติญาณ หรือบางคนเรียก เซ็นส์ในการออกแบบ เปรียบได้กับพลีงวัจครับ

มี Graphic หลายท่านครับที่มีทักษะโปรแกรมอันล้ำเลิศ รู้จักเครื่องมือทุกชนิด แก้ปัญหาได้หมด แต่กลับออกแบบงานได้ธรรมดา ไม่มีลูกเล่น นั่นเพราะเค้าเองขาดมุมมองที่หลากหลาย ครับ

ในขณะที่บางท่านเองมีแบบอยู่ในหัวเลิศอลังการ แต่เจ้ากรรมมือมันไม่ได้ไปตามหัว นั่นแปลว่าเทคนิคยังไม่สูงครับ

มาถึงตรงนี้พอจะเห็ด กันแล้วนะครับที่ผมเปรียบเทียบมาซะยาวทีเดียว

เอาเป็นว่าบอกทุกท่านเลยครับ ว่าผมเองกำลังจะถ่ายทอดทุกอย่าง ทั้งมุมมอง และเทคนิค
ในการ ออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ให้กับผู้ที่สนใจ ได้เข้าร่วมอบรม โดยใช้เวลา 2 วัน วันละ 6ชั่วโมงรวมเป็น 12 ชั่วโมงครับ

ก็ไม่ทราบว่าจะมีใครว่าหนักไปรึป่าว.....สามารถ คอมเม้นบอกกันได้นะครับไม่ต้องเกรงใจ

สิ่งที่ท่านจะไม่ได้จากที่อื่นคือ ..... ุมมองครับ หรือพลังวัจกำลังภายในนั่นเอง ผมบอกเลยว่าไม่มีที่ไหนสอนครับเพราะอันที่จริงแล้วขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของเราเองล้วนๆ

ผมเองจะถ่ายทอดมุมมอง ในแง่ บวกให้กับทุกๆท่านได้ทราบกันครับ ไม่ว่าจะเป็น การประยุกต์ให้ แบ็กกราวน์
การใช้สีต่างๆให้เหมาะสม การนำกราฟฟิคต่างเข้ามาใช้เพื่อเติมลูกเล่น รวมถึงการ Mix งานหลายๆ งานที่เราชอบ ออกมาเป็นงานในแบบของเราเองไม่ได้เลียนแบบใคร ทั้งหมดคือการศึกษามุมมองครับ ซึ่งทุกท่าจะได้ทราบแน่นอน

ผมต้องบอกเลยครับ ว่าผมไม่ใช่คนเก่ง แต่ผมมีใจรักที่จะถ่ายทอดและรู้ว่าจะถ่ายทอดอะไรออกไปให้ตรงตามความต้องการของผู้รับครับ

เชื่อเหลือเกินว่า ทุกๆท่าจะได้อะไรๆ หลายสิ่งคุ้มค้ากับ จำนวนเงินที่เสียไปอย่างเเน่นอนครับ


ลิงค์ผลงานที่ผ่านมาของผมครับ


ท่านที่สนใจ โทรมาสอบถามได้นะครับ
089-824-1975 mac
หรือโอนเงิน เข้าบัญชี เพื่อสำรองที่นั่งได้ที่
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาย่อยเซ็นทรัลพระราม3
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 748-2-29703-4
นายพีรัวัฒน์ คำถาเครือ

ขอบคุณมากครับ
แล้วพบกันครับผม

ถามจริงๆครับ...กราฟฟิค ดีไซน์คืออะไร???

ยังครับ...อย่าเพิ่งตอบ อย่าเพิ่งใช้สมองรีบครุ่นคิดอย่างลนลาน เพราะถ้าคุณยังตอบไม่ได้ทันทีตอนที่ถูกยิงคำถามเข้าใส่ นั่นแปลว่า คุณเองอาจยังสับสนว่า จริงๆแล้วมันใช่ ไอ้อย่างที่เราคิดไว้ ป่าวหว่า....... หรืออาจเข้าใจมันผิดมาทั้งชีวิต

ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย หากคนๆหนึ่งจะต้องเลือกอะไรบางอย่างที่มีผลต่อ ช่วงชีวิตในอนาคตของตัวเอง

หลายคนคงใช้เวลานานนับ วัน เดือน หรือข้ามปีเลยทีเดียวหากต้องใช้ความคิดทั้งหมดที่มีเพื่อตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต...
แน่นอนว่ามันไม่เหมือนการทำข้อสอบที่มีกระดาษคำตอบวางตรงหน้าแล้วให้เราเลือกข้อที่คิดว่าใช่สุด...ซึ่งอาจมี 4-5 ช้อยส์ให้เลือกเอาตามชอบ...แต่ครั้งนี้มันจะเปลี่ยนชีวิตเราไปออย่างสิ้นเชิง และไม่สามารถนั่ง ไทม์แมชชีนย้อนเวลามาแก้ไขได้เหมือนในหนัง

ครับที่พูดเกริ่นมานั้นผมเอง....ผมใช้เวลาไม่นานนักกับการยืนคิดอยู่ตรงทางแยกที่เดินมาถึงก่อนที่ผมจะทิ้งหน้าที่ พนักงานส่งเสริมการขาย บริษัทน้ำเมาแห่งหนึ่งไว้ตรงนั้นพร้อมกับเลือกไปยังเส้นทางที่ใจผมมันเรียกร้องอยู่ทุกเวลาจนผมทนไม่ไหว...

ทั้งที่ผมเองอาจมีสิทธิ์ก้าวหน้าในงานด้านการตลาดได้เป็นอย่างดีในฐานะ หลานชายของ ผู้จัดการเขตบริษัทน้ำเมา ที่เตะผมเข้ามาในที่แห่งนี้พร้อมกับยัดเยียด พนักงานส่งเสริมให้ผม....
แต่เเล้วผมเองก็เลือกที่จะลาออกมาในที่สุด ท่ามกลาง เสียงกร่นด่า ภาษาพ่อขุน และสีหน้าของผู้ใหญ่ในบ้านที่มองผมราวกับมีคำว่า "ไอ้โง่" สักไว้กลางหน้าผากผมเอง

....ผมตัดสินใจลาออกทันที...เพราะอะไรเหรอครับ???? เพราะผมมีความรู้สึกว่าที่ทำไปทั้งหมด มันไม่ใช่ตัวเอง ความรู้ที่ผมเรียนมาทาง นิเทศศาสตร์ ก็เริ่มเหือดหายไปทีละน้อย และคงหมดในไม่ช้าแน่นอนหากผมไม่ทำอะไรกับมัน

แล้วทุกอย่างก็เริ่มตรงนี้ครับ.....ผมตัดสินใจเข้ามาหางานที่ กรุงเทพ โดยตั้งใจว่า คงได้เป็นนักข่าว กอง บ.ก. Coppywriter ในไม่ช้า เงินเดือนไม่ต้องดี ขอให้มีงานทำว่างั้น....
จนแล้วจนรอดก็ยังเตะฝุ่นอยู่ ประกอบกับอยู่ๆก็ดันคิดขึ้นมาได้ว่า น่าจะลองหางานอีกสายดู ซึ่งเป็นงานด้านศิลปะที่ผมเองไม่เคยจะพิศมัยงานด้านนี้เลย นั่นคือ "กราฟฟิค ดีไซน์"

เนื่องจากตอนเรียนก็ยังพอทำเป็นบ้าง แบบ งูๆ ปลาๆ พอเอาตัวรอดเป็นงานๆไป คิดว่าลองส่งใบสมัครไปหลายๆที่ เผื่อฟลุ๊กขึ้นมาก็คงได้งานได้เงินมารักษาโรคตกงานก่อน พอหายดีแล้วค่อย แอบๆ หางาน ที่หวังไว้ก็ยังไม่สาย 5555
"ลูกผู้ชาย ยืดได้หดได้ "


และแล้วพระเจ้าก็ไม่ได้ตาบอด....ผมถูกเรียกเข้าไปเทสต์งานตำแหน่ง กราฟฟิคดีไซน์ ที่ what AV ซึ่งเป็นนิตยสารแนวเครื่องเสียง โฮมเทียเตอร์ .....แน่นอนครับ ผมผ่านการทดสอบและได้เข้าไปทำงานในตำแหน่งนี้ในที่สุด แม้จะกังวนมากเรื่องการทำงานจริง เพราะเรื่องจริงยังไม่เคยทำเลย...555555 ตั้งแต่บัดนั้น ผมก็ได้ย้ายก้นเข้ามาในวงการ กราฟฟิคดีไซน์เต็มตัว แม้จะไม่เต็มใจนัก แต่ทั้งหมดก็เกิดขึ้นเพราะการเลือกทางเดินชีวิตแบบท้าทายของตัวเอง

เชื่อว่าหลายคนเองก็คงต้องเคยไปยืนระหว่างทางแยก ของชีวิตตัวเองก่อนจะตัดสินใจครั้งใหญ่ของอนาคตเช่นเดียวกันกับผม
......สุดยอดใช่ไม๊ครับ ความรู้สึกแบบนั้นที่ไม่ใช่ใครก็จะรู้สึกได้ มันเยี่ยมจริงๆ เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของชีวิต.....

จริงไม๊ครับ ...........